➜ กว่าครึ่งปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเพลงได้เริ่มเคลื่อนตัวเข้าสู่จุดของการปฏิรูปช่องทางการขายและกลยุทธ์การตลาดอีกครั้ง ผมกำลังพูดถึงการจัดระเบียบ การครอบครอง และการได้มาซึ่ง “เอ็มพี ทรี ไฟล์” (MP 3) ให้เป็นเรื่องของธุรกิจ
แต่เดิม เอ็มพี ทรี เคยเป็นทางออกสำหรับศิลปินนักดนตรี ที่มองหาช่องทางในการเผยแพร่งานของตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบธุรกิจของบริษัทและค่ายเพลงที่กุมการตลาดรวมถึงช่องทางต่างๆ นอกจากนั้น เอ็มพี ทรี ยังเป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยนเพลงอย่างผิดกฎบ้านกฎเมือง แล้วจะไม่ให้อุตสาหกรรมเพลงขยับตัวเข้ามาในพื้นที่นี้เสียเองได้อย่างไรแอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในการผลักดันช่องทางการขายแบบเพลงต่อเพลงผ่านระบบของตนเอง การทำงานควบคู่กันระหว่าง “ไอพอด” (กระด้างภัณฑ์) และ “ไอทูน” (ละมุนภัณฑ์) เป็นการตลาดที่ถูกต้องตามเวลาและสถานการณ์ ทำให้เจ้าไอพอดกลายเป็นเครื่องเล่นเอ็มพี ทรีที่ขายดีที่สุดในอเมริกา
ผมเองก็ดีใจกับแอปเปิ้ลด้วย ในที่สุดก็เกาโดนที่คันเสียที กลายเป็นว่าแอปเปิ้ลเป็น “แม่แบบ” ในการจัดการของบริษัทอุตสาหกรรมเพลงเอ็มพี ทรี ไปเสียแล้วจุดเด่นของการตลาดแบบเพลงต่อเพลงอยู่ตรงที่ ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้นในการจับจ่าย สามารถเลือกซื้อเฉพาะเพลงที่ตนเองชอบ ไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งชุดให้เปลืองเงิน ราคาของแผ่นซีดีที่แพงขึ้นทุกวันก็มีส่วนทำให้เกิดการตลาดแบบเพลงต่อเพลงนี้
ว่าไปแล้วแนวคิดนี้มันกลายมาจากการตัดซิงเกิ้ลออกมาขายนั้นเอง หากแต่มันถูกพัฒนารูปแบบบนเทคโนโลยีใหม่ คิดไปคิดมา ทำให้ผมชักเป็นห่วงเจ้าเพลงประเภท บับเบิ้ล กัมส์ ฟังสองสามอาทิตย์เบื่อ นักร้องทำตัวน่ารักฉาบฉวย ทั้งชุดเพราะเพลงสองเพลง ปกอัลบั้มโคลสอัพทุกรูขุมขน เนื้อหาเพลงก็ซ้ำไปมา มิวสิควีดีโอก็…เอาล่ะ…ไม่ต้องอธิบายแล้ว น่าจะนึกภาพกันออก
การเข้ามาของธุรกิจเพลงต่อเพลง อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อนักร้องกลุ่มนี้กว่าศิลปินประเภทอื่น ที่ผมมองเห็นไรๆ จากตรงนี้ก็คือ รูปแบบการทำการตลาดแบบสูตรสำเร็จของเพลงประเภท บับเบิ้ล กัมส์ อาจต้องปรับปรุงอย่างจริงจัง หลังจากยึดถือสูตรสำเร็จเดิมๆ มาตั้งแต่ต้นยุคแปดศูนย์ และไม่ว่าประเทศไหนๆ สูตรนี้ใช้ได้หมดบับเบิ้ล กัมส์ คืออะไร? มันก็คือวิธีการนำเสนอสินค้าชนิดหนึ่งของอุตสาหกรรมเพลง เปรียบได้กับหมากฝรั่งเคี้ยวหวานอร่อยเมื่อยังใหม่ สูตรนี้เขาจะขายของใหม่สด เรื่องสุ้มเสียงมาทีหลัง ขอให้อายุน้อย หน้าตาดีไว้ก่อน อันเป็นโอกาสที่เหนือกว่าเมื่อนำมาเป็นตัวเลือก ทีนี้พอเคี้ยวต่อสักพักชักหายหวาน แล้วยังไงต่อ? ก็ถูกคายทิ้งอย่างไม่มีเยื่อใยเมื่อหมดรสชาติแล้ว ผู้บริโภคก็ยกขโยงไปเคี้ยวชิ้นใหม่
ทุกยุคที่ผ่านมาก็มีศิลปิน บับเบิ้ล กัมส์ เป็นของตนเอง แต่มี บับเบิ้ล กัมส์เมอร์ กี่รายที่สามารถหลุดพ้นจากอายุงานสองสามปีของตนเอง โตไปพร้อมๆ กับแฟนเพลง แล้วยังรักษาสถานภาพไว้ได้?วงการเพลงป๊อปแบบ บับเบิ้ล กัมส์ มีลักษณะจำเพาะอย่างที่ร่ายมา นักร้องเพลงป๊อปที่เข้าสูตรแบบแพ็คเกจสำเร็จรูป เรียกได้ว่าร้อยทั้งร้อยล้วนมีวันหมดอายุพิมพ์ติดอยู่ที่หน้าผากทั้งสิ้น ศิลปิน บับเบิ้ล กัมส์ จะสิ้นอายุทันที ถ้าภาพพจน์ของนักร้องไม่มีการพัฒนาไปตามความสมควร และอายุขัยก็ไม่โตไปตามแฟนเพลง อีกทั้งยังไม่สามารถขยายฐานผู้ฟังไปยังกลุ่มอื่นๆ
การเจริญเติบโตและเดินออกจากอุตสาหกรรมเพลงแบบ บับเบิ้ล กัมส์ ได้กลายเป็นเรื่องท้าทาย บับเบิ้ล กัมส์เมอร์ ทุกรุ่น นักร้องหญิงบางคนค่อยๆ ฉีกตัวเองจากภาพเด็กสาวไม่เดียงสาขายความน่ารักก็เพื่อให้อยู่รอดยืดอายุต่อไปในวงการ ซึ่งผมว่าถ้าเธอเหล่านั้นไม่โตออกจาก บับเบิ้ล กัมส์ คนฟังจะรำคาญและวันหมดอายุก็จะปรากฏชัดขึ้นก่อนเวลาอันควร เพราะฉะนั้นเธอจึงต้องเริ่มเปิดเนื้อเปลือยหนังบ้าง ทำตัวให้เป็นข่าวบ้าง เพื่อเรียกร้องความสนใจ ในขณะเดียวกันลองมองจากอีกด้านสิครับ ผมกลับมองเห็นว่าคนจะเกลียดและชวนให้รำคาญมากกว่าเสียอีก ถ้าโตป่านนี้ยังมาทำตัวน่ารักหวานจ๋อยวิถีชีวิตที่เป็นสูตรสำเร็จประเภท บอยแบนด์ เกิร์ลแบนด์ ก็จัดได้ว่าอยู่ในโลกของ บับเบิ้ล กัมส์ เช่นกัน แตกต่างตรงที่หนุ่มสาวแบนด์เหล่านี้ อาศัยความหลากหลายของสมาชิกในวง แยกกันตีกลุ่มเป้าหมายของตนเพื่อขยายฐานแฟนเพลง โดยใช้หลักสูตร บับเบิ้ล กัมส์ ไปสักสองสามชุด จากนั้นแยกวง สูตรการแยกตัวสามารถล้างภาพเดิมและนำเสนอตัวเองเหมือนของใหม่อีกรอบในฐานะศิลปินเดี่ยวได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ส่วนใหญ่จะทำธุรกิจไปได้อีกหนึ่งถึงสองชุด ซื้อความสดไปได้อีกเฮือก เออจริงๆ แล้วเราไม่ได้แยกวงหรอกนะ นั่นเป็นข้ออ้างสุดฮิต กันท่าไว้ว่าถ้าไปเดี่ยวไม่รอดจะได้ไม่ปิดประตูหากิน
กลับมาสู่โลกของ เอ็มพี ทรี ผมว่าความสำคัญของปกอัลบั้มมีน้อยมาก ผู้บริโภคที่เลือกเสพ เอ็มพี ทรี นั่นหมายความว่า เขาไม่ยึดติดกับการบริโภคงานออกแบบปก บรรจุภัณฑ์ หรือแม้แต่เนื้อร้อง วิธีการนำเสนอของ บับเบิ้ล กัมส์เมอร์ ก็อาจจะต้องเปลี่ยนไปเพื่อให้เข้ากับการทำตลาดแบบใหม่
ในฐานะนักออกแบบแล้ว จุดด้อยสำหรับผมก็คือตรงนี้แหละครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่บริโภคดนตรีควบคู่ไปกับการออกแบบปก บรรจุภัณฑ์ และเพลงข้างในมาพร้อมกันเป็นแพ็คเกจ ผมยังอยากได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันที่จับต้องได้ไม่ใช่แค่ไฟล์ ใครจะว่าผมยังติดอยู่ในโลกเก่าก็ไม่ว่ากัน เชื่อว่าทุกคนเมื่อโตมาถึงอายุประมาณหนึ่ง คุณเริ่มพบว่ามีวงดนตรีหรือศิลปินอยู่หยิบมือหนึ่งที่คุณจะชื่นชอบผลงานโดยไม่มีเงื่อนไข ยินดีที่จะควักกระเป๋าอย่างไม่ยาก
ผมค่อนข้างสนับสนุนหลักการที่เป็นระเบียบเสียทีของธุรกิจเพลงต่อเพลง มันเปิดโอกาสให้ผมเสพ บับเบิ้ล กัมส์ ที่ฉาบฉวย ฟังง่ายๆ ได้บ้างเป็นครั้งคราวแบบไม่ต้องคิดมากหรือนึกเสียดายเงิน ดีไปกว่านั้นไม่ต้องมาคอยซ่อนซีดีและปกไม่ให้เพื่อนฝูงเห็นเพราะกลัวโดนล้อแต่ที่ต้องคิดมากก็คืออุตสาหกรรมการออกแบบเลขนศิลป์ ที่อาจได้รับผลกระทบบ้างจากการสร้างช่องทางการขายเพลงลักษณะนี้ เพราะมันเป็นการขายดนตรีแบบเปลือยๆ กระนั้นแล้วผมก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่า มันเป็นไปได้ที่อาจจะส่งผลไปในอีกทาง กล่าวคืออุตสาหกรรมเพลงอาจต้องใส่ใจกับการออกแบบเลขนศิลป์และบรรจุภัณฑ์มากขึ้น โดยเฉพาะเพลงแบบ บับเบิ้ล กัมส์ เพื่อยังคงดึงดูดให้ผู้บริโภคซื้อแผ่นซีดี ทั้งๆ ที่จะคุ้มกว่าหากไปซื้อเป็นเพลงต่อเพลง